ส. ศิวรักษ์ หรือ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นนักเขียน นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวทางสังคมชาวไทย ได้รับรางวัลอัลเทอเนทีฟโนเบล (Alternative Nobel, Right Livelihood Award) หรือ "รางวัลโนเบลทางเลือก" ในปี พ.ศ. 2538 และยังได้รับรางวัลศรีบูรพาจากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยในปีเดียวกันอีกด้วย เขามีผลงานการเขียนมากมายครอบคลุมหลายด้านเช่น พุทธศาสนา สังคม การเมือง รูปแบบการปกครอง เป็นต้น...!!!
- หนังสือทุกเล่มเป็นสภาพสะสมครับ ปกอ่อน
- ลูกค้าสามารถสอบถามขอรายละเอียดและภาพหนังสือเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อได้ทุกเล่มครับผม....!!
ชื่อและรายละเอียดหนังสือ :
1. ชื่อหนังสือ : ศิลปะแห่งการแปล
ศิลปะเล่มนี้เป็นหนังสือรวมงานแปลของ ส.ศิวรักษ์ เทียบกับต้นฉบับภาษาอังกฤษและบทอภิปรายเกี่ยวกับหลักในการแปลหนังสือที่เป็นการจับประเด็นหลักด้วยท่วงทำนองที่กระชับรัดกุม อันเป็นคุณลักษณะประจำตัวของ ส.ศิวรักษ์ แบบอย่างการแปลหนังสือในเล่ม อาทิ แปลคัมภีร์ไบเบิล, ประวัติการแปล, ประวัติการแปลทางตะวันตก, แปลชื่อ, แปลสำนวน แปลภาษิต, แปลโอวาท เป็นต้น โดยหลักการแปลหนังสือของ ส.ศิวลักษ์นั้น ผู้แปลย่อมต้องรู้ทั้งสองภาษา จะแปลเป็นภาษาไหน ต้องรู้ภาษานั้นดีเป็นพิเศษ ด้วยเหตุฉะนี้จึงมักปรากฎว่าคนไทยแปลเป็นไทยได้ดีกว่าฝรั่ง แลฝรั่งแปลเป็นฝรั่งภาษาตนได้ดีกว่าคนชาติอื่น ถึงกระนั้น ผู้แปลก็ต้องรู้ภาษาที่ตนแปลโดยเข้าใจแจ่มแจ้งครับผม...!!!
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 กรกฎาคม 2532 มี182 หน้า
พิมพ์เพื่อจัดลำดับเรื่องใหม่
โดย : สโมสรถนนหนังสือ
ISBN : 974-315-248-2
------------‐-------------------
2. ชื่อหนังสือ : สยามยามวิกฤต
สยามยามวิกฤต เป็นหนังสือรวมบทความเก่า ของ ส. ศิวรักษ์ ซึ่งได้รับการเลือกสรรแล้ว ทั้งนี้ ตรงกับฉบับภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า Siam In Crisis ซึ่งทางมูลนิธิโกมลคีมทองเคยจัดพิมพ์ เมื่อปี 2523 และเป็นหนังสือเล่มแรกของ ส. ศิวรักษ์ที่ได้รับการตีพิมพ์ในระหว่างที่เจ้าตัวกำลังประสบกับวิกฤตทางการเมือง ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาดูจากทั่วทุกมุมโลก นักคิดนักเขียนผู้นี้ถือได้ว่าเป็นปัญญาชนอนุรักษ์นิยมของไทยคนสำคัญที่มีอยู่จำนวนน้อยคนผู้อุทิศตนอย่างจริงจังที่จะสืบทอดคุณค่าทางสติปัญญา รวมทั้งสัจจะ ความดี ความงดงามของวัฒนธรรมในอดีตสมัย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า เคราะห์กรรมของปัญญาชนคนนี้จึงมิใช่เพียงวิกฤตการณ์ของปัจเจกชนคนหนึ่งเท่านั้น หากเป็นชะตากรรมของบ้านเมืองซึ่งกำลังก้าวลงสู่หุบเหวแห่งวิกฤตทางคุณค่ายิ่งขึ้นทุกทีแล้ว และนี่ดูเหมือนจะพ้องพานกับคำพยากรณ์ของ ส. ศิวรักษ์ ที่ตั้งชื่อบทความชุดนี้ไว้อย่างท้าทาย โดยหยังสื จะแบ่งเป็น 6 ภาค ประกอบด้วย
- ภาค1 บทนำ
บทบรรณาธิการ/ แนะนำผู้เขียน/ บทกวี
- ภาค2 บุคคลในวงวรรณกรรม
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์/ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร/ พระยาอนุมานราชธน สามัญชนหรืออัจฉริยะ/ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช/ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
- ภาค3 สยามในโลกกว้าง ระหว่างปี 2509-2513
- ภาค4 พื้นฐานในการเข้าใจการเมืองไทย
- ภาค5 อิทธิพลของอเมริกาต่อไทยคดีศึกษา
- ภาค6 ทัศนะเกี่ยวกับพุทธศาสนาของไทย...!!!
ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2627 มี 482 หน้า
โดย : มูลนิธิโกมลคีมทอง
-----------------------------
****หนังสือแปลหายาก****
3. ชื่อหนังสือ : ประวัติศาสตร์จีน
แปลจาก : A Short History of the Chinese People, 3rd edition
หนังสือเล่มนี้นับได้ว่าเป็นหนังสือว่าด้วยจีนคดีอย่างวิชาการเล่มแรกๆในประเทศไทย ก่อนที่การศึกษาด้านจีนวิทยาจะพัฒนาขยับขยายออกมามากขึ้นดังปัจจุบัน ทว่าหากจะพิจารณาโดยถ่องแท้แล้วก็ยังไม่อาจนับว่าเติบโตได้รวดเร็วมากนัก ด้วยเหตุที่จีนมีประวัติศาสตร์และรากฐานทางอารยธรรมมายาวนานกว่าห้าพันปี มีชนเผ่าต่างๆมากมายอันส่งผลให้มี ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมและประเพณีที่หลากหลายให้ศึกษาได้ไม่รู้จบสิ้น กล่าวได้ว่าสำหรับประเทศไทยแล้ว ยังมีหนังสือหลักเกี่ยวกับจีนวิทยาให้ใช้ศึกษาค้นคว้าอยู่น้อยมาก โดยหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงตั้งแต่ยุคสมัยแรกของจีน มาถึงอาณาจักรสมัยแรกๆ สมัยการแตกแยกทางการเมือง จนประเทศจีนกลับรวมกัน ก่อตั้งราชวงศ์ซุย(สุย) และราชวงศ์ถัง จนถึงการแตกแยกและราชวงศ์ซ้อง(ซุง) กับการแบ่งแยกทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือเป็นพวกมองโกล กลายเป็นราชวงศ์จีน ราชวงศ์เชง (ชิง) หรือพวกเม่งจู (แมนจู) และท้ายสุดมาถึงสมัยเป็นสมัยสาธารณรัฐครับผม...!!!
ของ : คาร์ริงตัน กู๊ดริช L.Carrington Goodrich
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 ปี 2541 มี 272 หน้า
สำนักพิมพ์เคล็ดไทย
ISBN : 974-315-545-7
--------------------------------
#ส_ศิวรักษ์ #สุลักษณ์_ศิวรักษ์ #ศิลปะแห่งการแปล #สโมสรถนนหนังสือ #สยามยามวิกฤต #Siam_In_Crisis #มูลนิธิโกมลคีมทอง #บุคคลในวงวรรณกรรม #ประวัติศาสตร์จีน #A_Short_History_of_the_Chinese_People #คาร์ริงตัน_กู๊ดริช #L_Carrington_Goodrich #จีน #ร้านหนังสือออนไลน์ #ร้านหนังสือThanabooks #Thanabooks #Dangrumpoei #DangrumpoeiBookshops